คำถามที่ทุกคนนั้นสงสัย ว่าถ้าไม่มีป่าไม้นั้นโลกของเราจะเป็นอย่างไร และเกิดผลกระทบอะไรบ้าง การใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ไม่เคยนึกถึงความเป็นอยู่ของธรรมชาติเลย การใช้ทรัพยากรไปอย่างสิ้นเปลือง การก่อมลพิษแบบไม่หยุดหย่อน
ป่าไม้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างถูกทำลายในทางอ้อมและเสียหายเป็นอย่างมาก ทำให้มีแนวโน้มที่ไม่ดีต่อโลกของเรา และการกระทำเหล่านี้ของมนุษย์ทำให้เกิดคำถามที่มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์โลกนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ธรรมชาติจะถูกทำลายไปมากมาย มากถึงขั้นที่ป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์นั้นไม่มีเหมือนก่อนอีกเลย และถ้าเราปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และยังไม่ลดการทำลาย และดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป ไม่ถนอมธรรมชาติไว้ให้ลูกให้หลาน หรือสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในป่า ก็เหมือนรอวันที่โลกและทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นล่มสลาย แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราร่วมมือกันสร้างและใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะบอกให้เลิกทำลายเลยก็คงเป็นไปได้ยาก แต่เราต้องลดการทำลายให้น้อยลง เพื่อที่สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติยังคงใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างสงบสุข และเปลี่ยนเป็นสร้างหรือการทำให้ธรรมชาติ ไม่ว่าจะสัตว์ หรือป่าไม้ พืชพรรณต่างๆ ยังคงสวยงามและดำเนินชีวิตต่อไปอีกนานแสนนาน
สาเหตุของการทำลายป่าไม้
การที่ป่าไม้นั้นถูกทำลายเกิดจากฝีมือของมนุษย์อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ให้ค่าหรือไม่ได้ให้ความสำคัญ ใช้แต่ความสุขส่วนตัว นึกถึงความสะดวกสบาย มักง่าย และสาเหตุสำคัญที่ทำให้ป่าไม้นั้นลดลง เกิดจากการเพิ่มจำนวนประชากรของมนุษย์ คิดง่ายๆ ถ้ามีคนเยอะขึ้น แต่ป่าเท่าเดิม และผู้คนก็ต่างไม่ถึงถึงธรรมชาติยังทำลายธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการสร้างหรือเพิ่มจำนวนป่าเลย เมื่อคนเยอะขึ้นทรัพยากรธรรมชาติก็จะน้อยลงเพราะมีคนทำลายเยอะมากขึ้น และเมื่อถึงวันที่ทรัพยากรทางธรรมชาตินั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ ก็ส่งผลไปถึงสัตว์ป่า เพราะสัตว์ป่านั้นหาอาหารจากในป่าพืชพรรณต่างๆ ถ้าสิ่งเหล่านี้หมดไป สัตว์ป่า มนุษย์ หรือแม้แต่โลกของเราก็จะไม่มีอีกต่อไป
ถ้าไม่มีป่าไม้จะเกิดอะไรขึ้น?
แน่นอนว่าผลกระทบของการทำลายป่านอกจากจะทำให้ป่าไม้ลดน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ และสามารถส่งผลต่อปัจจัยทางชีวภาพ และกระทบไปถึง สภาพ ดิน น้ำ อากาศ สัตว์ป่า แล้วรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมอื่นๆ การทำลายป่า ก็เหมือนการทำลายระบบนิเวศน์ ทำให้สมดุลของธรรมชาตินั้นหายไปผลกระทบของการทำลายป่าไม้ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ส่งผลไปยังการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และยังเกิดภาวะโลกร้อน เกิดน้ำท่วมสูงในฤดูฝน เกิดความแห้งแล้งในฤดูแล้ง และการทำลายป่าไม้ยังกระทบไปถึง แม่น้ำลำธาร เมื่อพื้นที่ป่าถูกทำลายต้นไม้จะไม่คายน้ำ ทำให้สภาพอากาศของป่านั้นแห้งแล้ง และทำให้เกิดผลร้ายกับพืชและสัตว์ป่าต่างๆ การสูญเสียระบบนิเวศวิทยา ไปจนถึงอัตราความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเชื้อโรคและไวรัสจากสัตว์สู่คน ส่วนการลดลงของป่าไม้นั้นก็ส่งผลให้อากาศที่บริสุทธิ์น้อยลง ไฟป่าที่ทำลายสารอาหารของต้นไม้และดิน ทำให้เกิดการกระจายของเมล็ดพันธุ์ยากขึ้น ฝนตกก็ทำให้ดินถล่ม และทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและภัยธรรมชาติอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นบนโลกของเรา
- เกิดน้ำท่วมเนื่องจากฤดูฝน เพราะบริเวณป่าที่ถูกทำลายจะทำให้ไม่มีต้นไม้ หรือวัชพืช และหญ้าที่ปกคลุมหน้าดิน และดินนั้นจะช่วยดูดซับน้ำฝน ทำให้น้ำไหลจากที่สูงอย่างรุนแรง และมีปริมาณมากทำให้อาจจะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ตอนล่างอย่างฉับพลัน
- ความแห้งแล้งจากฤดูร้อน ผลจากการทำลายป่าไม้ การระเหยของน้ำจากดิน เมื่ออากาศร้อน ทำให้พื้นดินมีความแห้งแล้ง และทำให้น้ำไม่ไหลลงสู่ลำธาร
- ทำให้โลกร้อนขึ้น เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งหมุนเวียนของ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน น้ำ และสารอื่นๆ ของระบบนิเวศน์ และการทำลายต้นไม้นั้นทำให้เป็นการสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนชั้นบรรยากาศให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
- พืชและสัตว์ป่าจะมีจำนวนที่ลดลงอย่าเห็นได้ชัด นอกจากป่าไม้ แม่น้ำลำธาร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและพืชพรรณ และรวมถึงเป็นอาหารให้กับสัตว์ป่า ถ้าป่าไม้ถูกทำลาย สัตว์ป่าและพืชเยอะแยะมากมายก็จะค่อยๆ ล้มตายไปเรื่อยๆ จนอาจจะทำให้สัตว์นั้นสูญพันธุ์ได้