มลพิษทางเสียงเป็นอันตรายที่มองไม่เห็น แต่มีอยู่ทั้งบนบกและใต้ทะเล มลพิษทางเสียงถูกพิจารณาว่าเป็นเสียงที่ไม่พึงประสงค์ หรือรบกวนซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ รวมถึงเพื่อนร่วมโลกของเรา เรามีวิธีวัดความดังของเสียง เรียกว่า “เดซิเบล” ถูกจัดหมวดหมู่ไล่ตั้งแต่ใบไม้ที่ทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ (20 ถึง 30 เดซิเบล) ไปจนถึงฟ้าร้อง (120 เดซิเบล) จนถึงเสียงครวญครางของไซเรน (120 ถึง 140 เดซิเบล) เสียงที่สูงถึง 85 เดซิเบล หรือสูงกว่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อหูของมนุษย์ แหล่งเสียงที่เกินเกณฑ์นี้ รวมถึงสิ่งที่คุ้นเคยเช่นเครื่องตัดหญ้า (90 เดซิเบล) รถไฟใต้ดิน (90 ถึง 115 เดซิเบล) คอนเสิร์ตร็อคที่ดัง (110 ถึง 120 เดซิเบล)

มลพิษทางเสียงส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนในชีวิตประจำวัน ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดคือการสูญเสียการได้ยินจากเสียง (NIHL) การได้รับเสียงดังมากเกินไป อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, ความผิดปกติของการนอนหลับ และความเครียด ปัญหาสุขภาพเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อทุกกลุ่มอายุโดยเฉพาะเด็ก เด็กหลายคนที่อาศัยอยู่ใกล้สนามบิน หรือถนนที่มีเสียงดัง มักจะได้รับความทุกข์ทรมานจากความเครียด และปัญหาอื่นๆ เช่นความจำเสื่อม ระดับความสนใจที่ถดถอย อาจมีการพัฒนาด้านทักษะการอ่านเขียนที่ช้า
ประเภทของเสียงรบกวน
1.เสียงรบกวนอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น เครื่องจักรที่ทำงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก อาจมาจากอุปกรณ์โรงงาน ระบบทำความร้อน หรือระบบระบายอากาศ
2.เสียงรบกวนแบบไม่สม่ำเสมอ เป็นระดับเสียงที่เพิ่มและลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น รถไฟบรรทุกสินค้า อุปกรณ์โรงงานที่ทำงานเป็นรอบ หรือการขึ้นลงของเครื่องบิน
3.เสียงแบบกระแทก มักเกิดจากอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการรื้อถอน เสียงระเบิดดังฉับพลันนี้ สามารถทำให้คุณตกใจได้ง่ายๆ มักเกิดจากการระเบิด หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น เครื่องตอกเสาเข็ม
4.เสียงแบบความถี่ต่ำ มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นเสียงของตึก เสียงบรรยากาศ หรือแม้แต่จากเครื่องยนต์ดีเซล ทุกวันนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับสัญญาณรบกวนความถี่ต่ำอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นสัญญาณรบกวนชนิดที่ยากที่สุดในการลดแหล่งกำเนิด ดังนั้นจึงสามารถแพร่กระจายไปได้ไกลหลายกิโลเมตร
หากคุณกังวลว่าจะต้องประสบปัญหากับมลพิษทางเสียง เป็นไปได้ให้คิดก่อนเลือกย่านที่อยู่อาศัย จะต้องให้อยู่ห่างไกลจากการจราจรหนาแน่นมากเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงอาชีพที่ต้องทำงานกับเครื่องจักรที่มีความดัง หรือใกล้กับแหล่งเสียงรบกวน ถ้าเกิดเสียงมันดังเกินไปมากที่จะทนไหว ควรสวมที่อุดหูทุกครั้ง ถือเป็นขั้นตอนเซฟตัวเองเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้