สาเหตุการเกิดไฟป่าในภาคเหนือแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุ ได้แก่… จากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์
โดยจากธรรมชาติก็มาจาก
- ฟ้าผ่า
- กิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกัน
โดยจากมนุษย์มีสาเหตุ ได้แก่…
เก็บของป่า เพราะของป่านั้นหายาก เมื่อลองเดินเข้าป่าไปเก็บ จะพบว่ามีเยอะเลย ซึ่งของป่าเหล่านี้มักไม่ได้ปลูกเอง และออกตามฤดู บางครั้งต้องเผาจึงจะออกเยอะเช่น เห็ดเผาะ กับ ผักหวาน เป็นต้น
เผาไร่ ทำไร่ , ไถนา ก็ก่อเกิดวัชพืชหรือซากพืชขึ้นมา ชาวบ้านก็เลือกวิธีกำจัดด้วยการเผา
ล่าสัตว์ป่า เข้าไปล่าสัตว์ป่าเอามากิน หรือเอามาขาย เผาป่าเพื่อให้หญ้าแตกตัวใหม่ สัตว์ใหญ่ – น้อย ก็จะมาเล็มกิน ก็รอดักได้
เลี้ยงปศุสัตว์ ในป่ารก ถ้าเผาก็จะมีพื้นที่ มีหญ้าขึ้นใหม่ สำหรับเลี้ยงสัตว์
‘หมอก , ควัน , ไฟ’ ทางตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งยังแก้ไม่ตก
โดย ‘หมอก , ควัน , ไฟ’ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงต้นปีของทุกปี ในทางตอนเหนือของประเทศไทย ปรากฏคำอธิบายเดิมๆ ซ้ำๆในทุกๆปี เช่น ไฟป่าจากธรรมชาติ และ ไฟจากน้ำมือมนุษย์ โดยปรากฏการณ์ไฟจากน้ำมือมนุษย์ ก็กลายมาเป็นคำอธิบายที่ เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดขึ้นกับพื้นที่ชนบท ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา
โดยภาคเหนือกับภาคอีสานเป็นพื้นที่เขตชนบท ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรม หากแต่ในปัจจุบันนี้ก็ไม่ใช่การทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมซึ่งทำเพื่อยังชีพอีกต่อไป เนื่องจากพวกเขาเป็นเกษตรกรที่จะต้องมีความข้องเกี่ยวกับทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนต้องมีการคำนวณต้นทุนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้พืชเงินสดทั้งหลาย ที่ปลูกกันในภาคเหนือกับภาคอีสาน ก็กลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบริโภคของสังคมสมัยใหม่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และน้ำตาล ล้วนเป็นพืชที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตอาหารอีกนานาชนิด ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการการบริโภคแบบสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นภาคเหนือกับภาคอีสานจึงรองรับการผลิตอาหารเหล่านี้
โดยวิธีการเผาเพื่อสร้างพืชเงินสดทั้งหลาย ก็จัดเป็นหนึ่งในกระบวนการคำนวณต้นทุนการผลิตอย่างดีแล้วว่า มีความคุ้มค่ามากที่สุด ในทางเศรษฐศาสตร์ทั่วไป หากแต่เมื่อมองในมุมของธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชนแล้ว เรียกได้ว่าไม่คุ้มกันเลย เหตุผลหลักๆที่ทางภาคเหนือเผาป่า ก็คือ การเปิดพื้นที่เพื่อทำการเกษตรแบบง่ายสุด เร็วสุด หากแต่ก็เกิดผลกระทบมากที่สุดด้วยเช่นกัน
PM2.5 ในประเทศเชียงใหม่ทะยานขึ้นสูงแตะอันดับ 1 ของโลก
ปัญหาหมอกควัน , มลพิษที่ , การเผาป่า ณ จ.เชียงใหม่ เกิดขึ้นทุกๆปี หากแต่ในปี 2019 เรื่อง PM 2.5 ได้รับความสนใจจากชาวเชียงใหม่เป็นพิเศษ เพราะทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามว่า ปัญหาเผาป่าทำไร่เลื่อนลอยเมื่อไหร่จะหมดไป
ปัญหานี้ระบาดหนักมากเลยครับ เจ้าหน้าที่แก้ไขยังไงก็ยังมีอยู่ดี เผาป่าไม่พอยังส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นอีกด้วย เว็บบาคาร่า ถือว่าเป็นบทความที่เตือนสติคนที่เผาป่าอย่างมากเลยครับและผมก็พึ่งรู้ว่าเชียงใหม่มีฝุ่น PM 2.5 มากที่สุดในโลก ช่วยกันรักษาป่าดีกว่าครับ