ด้วยที่ว่าจีนเป็นประเทศแผ่นดินใหญ่และประชากรที่มากที่สุดในโลก ทางประเทศจีนจึงต้องมีการวางแผนในการสร้างครอบครัวแต่ด้วยการวางแผนนั้นต้องชี้นำให้หมู่มวลชนปฏิบัติตามด้วยความสมัครใจและพอใจ เพื่อที่ว่าจะต้องไม่มีปัญหาเกิดขึ้นมาภายหลัง กฏการวางแผนครอบครัวนั้นเกิดขึ้นมาจากนโยบาลของรัฐบาลเพื่อควบคุมการเพิ่มขึ้นของประชากรภายในประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลส่งเสริมการให้ข้อมูลในการให้คำปรึกษาการคุมกำเนิน สุขอนามัยในการตั้งครรภ์
และสร้างคุณภาพให้กับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโต การที่สามี ภรรยานั้นที่จะเข้าร่วมกับนโยบายวางแผนครอบครัวนั้น ทางรัฐบาลจะดูจากอายุ สุขภาพ และอาชีพรวมทั้งสภาวะการเงินของครอบครัว เพื่อให้แต่ละครอบครัวมีการวางแผนเพื่อมีครอบครัวและป้องการตั้งครรภ์โดยเหมาะสมที่สุด
เมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคม 2015 หลังจากการประชุมเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศระหว่างปี 2016-2020 ที่เมืองปักกิ่ง ทางรัฐบาลของจีนจึงมีนโยบายที่เกิดขึ้นมาว่าจะยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวที่ทางการจีนเคยบังคับใช้กับประชาชนมาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่สมัยปี 1979 โดยตอนนี้รัฐบาลได้ออกนโยบาลใหม่ว่าให้ทุกครอบครัวสามารถมีลูกได้ถึง 2 คน นโยบายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการสมดุลจำนวนประชากรให้เข้ากับระบบเศรษฐกิจและรับมือกับปัญหาผู้สูงอายุที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้การที่ให้แต่ละครอบตัวมีลูก 2 คนนั้นในทางเศรษฐกิจของจีนจะได้เปิดตลาดกับพวกสินค้าเด็กเพิ่มมาขึ้น
สาเหตุที่รัฐบาลจีนใช้นโยบาลให้ทุกครอบครัวมีลูกคนเดียว
นโยบายนี้อย่างที่ทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว การที่รัฐบาลจีนนั้นบังคับให้ทุกครอบครัวมีลูกคนเดียวเพราะว่าประชากรของจีนมีจำนวนมากเกินไปถึง 800 ล้านคน จึงทำให้ทุกครอบครัวนั้นต้องทำตามข้อบังคับที่รัฐบาลกำหนดให้มีลูกเพียงคนเดียวเพื่อลดปัญหาคนล้นประเทศ
สาเหตุที่รัฐบาลจีนกำหนดนโยบายใหม่ให้มีลูกคนที่สองได้
นโยบายนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากปัญหาแรงงานขาดแคลน และภาระการเลี้ยงดูผู้สูงวัย ด้วยที่เมื่อก่อนจีนกำหนดให้มีนโยบายลูกคนเดียวนั้นส่งผลให้ประชากรลดลงมาก ทั้งวัยเด็กและวัยแรงงานทำให้แรงงานในประเทศมีไม่เพียงพอสำหรับการทำธุรกิจ จึงส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ เพราะภาษีที่ต้องได้จากประชากรนั้นไม่สมดุลกับเศรษฐกิจ จึงทำให้จีนมีนโยบาลที่จะมีการเก็บรายรับของประเทศให้ได้ใช้ในระยะยาวเวลาที่สมควรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ ภายหลัง นโยบาลลูกคนที่ 2 นั้นมีผลให้ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2015 ซึ่งผลของนโยบายนี้ทางรัฐบาลคาดว่าจะทำให้ประชากรเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 300,000 คน และการที่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นนั้นคาดว่าจะส่งผลถึงเศรษฐกิจการตลาดทางด้านผลิตภัณฑ์เด็กจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต